ตอนที่ 9
ฝ่ายวีหนึ่ง เมื่อตัวเองรู้สึกทั้งเหนื่อยและกดดันอย่างหนักแต่ต้องแสดงต่อภายนอกว่าไม่มีอะไร ตนยังไหวเสมอ ก็ยิ่งกดดัน คิดถึงที่ทรายพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจากกันว่า “ครูก็แค่อยากให้รู้ว่าถ้าอยากพูด อยากระบายอะไรที่อยู่ในใจ ครูยินดีรับฟังนะ” ก็อยากจะเปิดใจกับทรายแต่ก็ยังกลัวๆกล้าๆ
ooooooo
กรคิดหนักอยากรู้ความรู้สึกของเด็กที่ไม่อยากเป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็น คืนนี้ถึงกับเอาลิปสติกของทรายที่วางอยู่ทาปากแดงแจ๊ดมองตัวเองในกระจกพยายามหาความรู้สึกของตัวเองในรูปลักษณ์นั้น
พอทรายมาเห็นถามว่าเขาถึงกับต้องลองกับตัวเองเลยหรือ กรบอกว่าตนอ่านข้อมูลของทรายแล้วถ้าเรามีลูกแล้วเขาขอไปแปลงเพศ เราจะรับได้ไหม
“ถ้าเป็นสิ่งที่เขามีความสุขจริงๆ ทรายก็รับได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร เขาก็เป็นลูกเรา”
กรคิดตามและได้คำตอบง่ายดายว่า...นั่นสิ มองตัวเองในกระจกแล้วนึกขำว่า “ทำไปได้”
ใบพัดกลับบ้านแล้ว กองพลพยายามทำอย่างที่ครูป้องกับทรายบอก แต่ถ้าใบพัดยังไม่รู้สึกอะไรก็ให้เข้าไปกอดด้วยความรักและความเป็นห่วง กองพลตะขิดตะขวงใจเมื่อนึกภาพที่ตัวเองไปกอดใบพัด แต่ก็พยายามฝืนตัวเอง แต่พอไปกอดก็ถูกใบพัดสะบัด
อย่างแรงกระเด็นไปชนประตูจนร้องโอ๊ย...แล้วใบพัดก็ปิดเปิดไฟพูดแต่ว่า “นอนได้แล้ว...นอนแล้ว นอน...นอน...”
กองพลสงสารหลานจับใจ ตัดสินใจโทร.หาครูมิลันเล่าการเปิดปิดไฟของใบพัดให้ฟัง ครูมิลันบอกว่า แต่ก่อนใบพัดไม่เคยเป็น พอถึงเวลาก็เข้านอนเองเลย ไม่เคยได้ยินพ่อแม่ใบพัดพูดเรื่องนี้ด้วย บอกว่าถ้าอยากรู้ให้มาที่เชียงใหม่เพราะแม่ของใบพัดอาจจดบันทึกพัฒนาการของใบพัดไว้ตลอด กองพลบอกว่าจะรีบไป
เช้านี้โมรากุลออกไปแต่เช้า ธรรมชนะก็เตรียมออกเพราะมีนัดกินข้าวกับเพื่อน แม่บอกให้พ่อดูแลพีททีเพราะเช้านี้งอแงไม่ยอมไปโรงเรียนอ้างว่าไม่มีเพื่อนเล่นด้วย พ่อเลยจะเอาพีทไปด้วยบอกว่าเดี๋ยวตาซื้อไข่ให้
พอไปพบเพื่อนๆที่ร้านอาหารซึ่งบางคนก็พาหลานมาด้วยจึงให้เด็กเล่นด้วยกัน แต่เล่นกันได้ไม่กี่อึดใจ พีทก็รองกรี๊ดๆ ธรรมชนะบอกว่าหลานตนเองแล้วรีบลุกไปดู เห็นพีทร้องกรี๊ดๆแย่งกันนั่งรถเก๋งที่หลานเพื่อนเล่นอยู่ เมื่อหลานเพื่อนไม่ยอมพีทก็ตีหน้าพลั่ก! หลานเพื่อนร้องไห้จ้า ตารีบเข้าไปบอกว่าพี่เขาไม่ได้ตั้งใจ หลานเงียบอย่างว่าง่าย แต่พีทกลับแผดเสียงกรี๊ดๆ จนตาต้องเอาพาดบ่าพาออกไปที่รถ










